วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

ก้อยปลาซิว ของแช่บบ้นนา

ก้อยปลาซิว


ชื่อภาษาประกิต Direction of Chilly
ชื่อพื้นบ้าน ก้อยปลาซิว

ปลาซิว เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก หาเลาะกิน "ขี้ตะหลืนน้ำ" พบได้ตามแม่น้ำลำคลองทั่วไป
เปรียบเสมือนคนอีสานเฮานี้หละ หากินถั่ว ( ถั่วทีบ ถั่วแดน ) ไผว่าปลาซิวสกปรก ให้พิจารณา
คนคดโกงกินงบประมาณหลวง โกงกินประเทศชาติ คิดว่าเขาสะอาดแล้วให้ ยอมือใส่เขาโลดอีพ่อ
นั้นหละสิพาให้บ้านเมืองล่มจม

เกริ่นนำ
ก้อยปลาซิวเป็นอาหารอีสาน-ชาวลาว พื้นบ้านทั่วไป คนอีสานและชาวลาว
เสพรสชาตินี้ มาตั้งแต่ บรรพกาล สมัยเฮายังเป็นลมเป็นแล้งอยู่  การกินก้อยปลาซิว
สมัยก่อนโน้น เขาจะทำกินก็ต่อเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง น้ำแห้งขอด ในฤดูน้ำหลากหรือฤดูฝนนั้น
แม้จะมีปลาชนิดนี้มากมาย เขาจะเอาไปทำอย่างอื่น เช่น ออแร่งสะมอนฟิช ( ส้มปลาน้อย )
ปลาแดกน้อย อุปลาซิว หมกปลาซิว แกงปลาซิว เอาะปลาซิว เป็นต้น ซึ่งต้องผ่านไฟ
หรือไม่ก็ หมักดอง เสียก่อนจึงนำมากิน
เพราะคนโบราณเขารู้ว่า ในฤดูน้ำหลาก หรือ ฤดูฝน ปลามันหากินไปทั่วตามสายน้ำ ทำให้มีพยาธิ
เรียกว่า " แม่พยาธิ"
การทำก้อยปลาซิว เป็นการกินปลาดิบจะกินในฤดูแล้ง น้ำแห้งขอดแล้ว ส่วนมากกินในห้วงเดือน
พ.ย.- ก.พ. พวกที่กินก้อยปลาซิวหน้าฝน คือ พวก "สะลื่น" ลืนควมผู้เฒ่า จึงเกิดโรคภัย


วัตถุดิบ ( ดิบอีหลี)
1.ปลาซิวข่อน ( ห้วงเดือน พ.ย. - ม.ค. )
2. ห่อเดียวหลายหัว (ฮังมดส้ม )
3.บักเผ็ดแห้งป่น
4.ลูกโดดซอยห่าง ( บักเผ็ดดิบ)
5.ข้าวคั่ว
7.ปลาแดกอีสาน
8.ผักหอมเป
9.ผักบั่ว
10.บักนาว
12 น้ำปลา กาหน่อไม้ หรือ กาสิงห์ 
11. เกลือสินเธาว์ ต้มจากดินเอียด
12.บักสองซาว ( 40 หนองคาย )

องค์ประกอบ ในการหาการหาวัตถุดิบ 

1. แหย่ง ( ดางเขียว )
2.ห้วยหนอง ที่น้ำขอด โกนห้วย หรือ หนองสระ กุด และแม่น้ำในหน้าแล้ง
3. กะคุ ( คุงถัง กาละมัง ปี๊ปฮ้าง )
4.แดดพวมงาย สายลมกำลังห่าว
เมื่อครบองค์ประกอบแล้ว ก็พาไปหาแหล่งน้ำอีสานในหน้าแล้งได้เลย มองหาแหล่งปลาซิว
จัดการ "ล่องแหย่ง" หรือ "ลากดางเขียว" เพื่อต้อนปลาซิวมาตุ้ม มาโฮมกัน 
จากนั้นก็เลือกเฟ้นเอาแต่ปลาซิว คัดเอา "ขี่เหยื่อ" ออก ล้างน้ำให้สะอาดปราศจากฮากไม้
ก็จะได้ปลาซิววัตถุดิบชั้นเลิศ จากดินแดนที่ราบสูง ระหว่างเดินทางกลับ ก็ให้แหงนหน้ามองกกไม้
แนมหา วัตถุดิบชั้นสูงจากยอดไม้ นั้นคือ "ฮังมดแดง" บางบ้านก็เรียก " ฮังมดส้ม" พะนะ


วิธีทำ
1. คัดเอาปลาซิวลงใส่ลาละมัง
2.ล้างน้ำให้สะอาด 2 - 3 น้ำ
3. ไส้ขี้ ปลาซิว ( บางคนบอกบ่ต้องไส้ขี้ เสียรสชาติ พะนะ )
3. เทฮวด บัก 2 ซาว ลงคอ แก้คาว
4.ริน ไวน์ขาวอีสานลงใส่ปลาซิว 1กั๊ก ( ฆ่าเชื้อโรค)
5.เอาเกลือโรย 1 ช้อนชา
6. ซาว หรือ โคเลให้เข้ากัน
7. บีบ บักนาว ( มะนาวลง 3 ลูก )
8. คะลนให้เข้าเนื้อปลา
9. โข๊ะ (ขั๊วะ) ฮังมดแดง ให้มดแดงกัดเนื้อปลา จนปล่อยกรดสารส้ม อ่ามหล่าม
10 คนและซาว ให้มดแดงผสมกับปลาซิว
11 เอาข้าวคั่วกับพริกแห้งป่น ลงผสม
12 เติมน้ำปลา และ ปลาแดกลงไปปรุงรสตามชอบ
13. นำ ลูกโดดที่ซอยไว้ ลงไปคลุกเค้าพร้อม ผักเครื่องหอมต่างๆ
หากต้องการกินสุก เช่นมีเด็กน้อยกินนำ มีพุสาว กกขาขาวฮาวสูบ ( สูบตีเหล็ก ) กินด้วยก็ให้แบ่งไปคั่วให้สุก
สำหรับพวกนิยม รสชาติ ออริจิน่อน ก็ กินก้อยปลาซิวดิบๆ นั้นหละ



การเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตอีสาน
การทำก้อยปลาซิว หรือ อนุมัจฉา วารีถด นิยมทำกินกันเป็นหมู่คณะ ทำกินกันในฤดูเกี่ยวข้าว
ฤดูนวดข้าว ล้อมวงกันกินเป็นทิพย์รส แห่งแผ่นดินที่เรียบง่าย โบราณว่า
 "น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา"
นั่นคือการเปรียบเทียบ ฤดูกาล กับโอกาส หากจะพูดในเชิงวิทยาศาสตร์ คือ มิติที่ 4 ( เวลา ) นี่เอง
คนอีสานคือนักสู้ที่ทรหด ท่ามกลางฤดูกาลอันโหดร้ายแห้งแล้ง จึงอาศัยมิติที่ 4 กินทั้งปลาและมดพร้อมกัน
รสชาติที่แท้จริง คือ มิตรภาพและความอบอุ่น เรียบง่ายและเป็นจริงตามธรรมชาติ
คนอีสานอาศัยเมนูนี้ หลุดพ้นจากบ่วงบาศความหิวทุกข์ยากของสังขารมานานนับหลายพันปี
ในขณะที่ไม่มี เวทีที่ใดที่เสนอเมนูนี้ต่อชาวโลก ให้ได้ชื่นชม หลุดพ้นจาก โซ่ตรวนทุนนิยม สู่เสรี


ภาพประกอบทั้งหมด จากอินเตอร์เน็ต เจตนาเพื่อวิทยาทาน แด่บุคคลทั่วไป หาได้จงใจละเมิดเพื่อประโยชน์ตน
Cr:http://www.isan.clubs.chula.ac.th/food_sara/index.php?transaction=food_1.php&id_m=28289

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

การขนส่งลาวในอดิด

การขนส่งลาวในอดิด
Pavlovsky Avtobusny Zavod เก่า, PAZ-672, รถบัสอาจมีอายุ 35 ปีได้รับการขนถ่ายอีกหนึ่งลาวลาวลาวที่มุ่งหน้าไปยังเวียดนาม

รถบรรทุกไม้บรรทุกก้องจากเรือข้ามฟากแม่น้ำโขงจำปาลาว




สถานีรถบัส Paksan มุ่ง Xiengkhouang!

PAZ-672, รถบัส 40 ปีเล็ดลอดเส้นทาง Xiengkhouang-Paksan


Cr:photo
http://www.laosgpsmap.com/photos/

ดอกกระถินบ้านนา


หอมเอยหอมดอกกระถิน
รวยระรินกลิ่นน้องที่ปองหา
จากกันไกลกลิ่นน้องยังติดมา
ขี้ติดผ้า เธอให้ซัก ซักยากจริง ...

แสนสงบอุ่นสบายใต้ผ้าผวย
หอมระรวยกลิ่นเกสรเข้านาสา
เสียงนกน้อยขับขานตามลมมา
พึ่งตีห้าร้องอยู่ได้จะหลับนอน

ยิ้มสยามมาแต่ไกลให้ไหวหวั่น
แถมนุ่งสั้นโชว์เรียวขาให้อ่อนไหว
ผมดำยาวผิวขาวต้องตาต้องใจ
แต่ทำไมเสียงของเธอดูโคตรแมน........ เวรกรรม -_-"

โอ้สถานวิมานใหญ่ไม่ได้โม้
ประตูโตหน้าต่างกว้างอย่างวังหลุยส์
ของตกแต่งอย่างแพงๆ ไม่ได้คุย
แต่ต้องลุยขัดเช็ดถูกู(คนใช้)เหนื่อยใจ.

เห็นพอลล่ายืนยิ้มกระหยิ่มจิต
มาช่ามาแนบชิดสนิทหนม
น้องมาเรียเคลียเคล้าเร้าอารมณ์
สวรรค์ล่มแม่ปลุก....ลุกซะทีเถอะลูกเอ๊ย สายแล้ว...

ลมพัดไหวใบไม้ร่วง ยามหน้าหนาว
ให้แสนเศร้าหัวใจ กระไรหนอ
มองใบหล่น เหมือนใจเรา หล่นลงฟลอร์
เมื่อไหร่หนอจะกวาดหมด กลัวตกงาน ...

แบบว่า เป็นพนักงานกวาดถนนอ่ะ ...
รถญี่ปุ่นใครว่าแข็งฉันขอเถียง
รถยุโรปไม่ลำเอียงไม่เอาไหน
ชนก็บุบเฉี่ยวก็ยุบไม่ได้อย่างใจ
แข็งสู้ไหมรถสิบล้อรอสิบโมง

โน่นก็ขาวนี่ก็หมวยสวยทั้งนั้น
นั่นนางงามนู่นเทพีดีกรีหรู
แสนเสียดายตัวเราเฝ้ามองดู
เก็บเงินอยู่ครบเมื่อไหร่ไปแปลง(เพศ)ชัวร์ :)
..เห็นของคาวของหวานวางจานจัด
ดูให้ชัดมีผลไม้กลิ่นหอมหวาน
กินเท่าไหร่ก็ไม่ยักจะหมดจาน
ธูปหนึ่งก้านเขาจุดไว้ เซ่นไหว้เรา .....

ยามคืนค่ำฉันนั่งเศร้าและเหงาหงอย
อยู่ในห้องน้อยๆแสนว้าเหว่
อยากจะมีคนเคียงคิดช่วยถ่ายเท
แต่ผู้คุมน่ะเซ่ จับขังเดี่ยว เดี๋ยวเห็นดี(กัน) ...

Cr:https://www.facebook.com/poem.wanzaa/

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

หอมเอยหอมดอกกระถิน

"หอมเอยหอมดอกกระถิน"


ดอกกระถินบานอิ่มอยู่ริมรั้ว
ส่งกลิ่นยั่วภู่ผึ้งคลึงเกสร
หอมรวยรินลอยลมเรียกภมร
ให้มาชอนไชชมผสมพันธุ์

อาหารปากมากคุณเคยคุ้นรส
ยอดอ่อนสดจิ้มน้ำพริกอร่อยนั่น
เมล็ดอ่อนใส่ข้าวยำล้ำรสครัน
แกล้มแกงอันเผ็ดน้อยอร่อยดี

แร่ธาตุเหล็กมากมายในกระถิ่น
เก็บยอดกินดมกลิ่นดอกบอกน้องพี่
ว่ากระถินไร้โทษประโยชน์มี
ปลูกตามที่ริมรั้วอย่ากลัวรก

Cr:http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6340
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต